tag:blogger.com,1999:blog-31659644134131011192024-02-18T19:25:25.321-08:00หนังสือ มหายันต์หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญฤาษีเอก อมตะhttp://www.blogger.com/profile/05620682567909993073noreply@blogger.comBlogger11125tag:blogger.com,1999:blog-3165964413413101119.post-66445814302553621862012-06-28T04:39:00.000-07:002012-09-20T02:28:04.240-07:00หลวงปู่คำพันธ์เจริญธาตุนั่งปรกอธิษฐานจิต<span style="color: red;"><span style="font-size: large;"><strong>หลวงปู่ใช้วิชาการเจริญธาตุในการนั่งปรกอธิษฐานจิต</strong></span><span style="font-size: large;"><strong>และจารอักขระด้วยตัวธรรมลาว</strong></span></span><br />
<br />
<strong><span style="color: red; font-size: large;"></span></strong><br />
<br />
<span style="color: blue;"> เนื่องจากหนังสือผูกใบลานนี้เป็นหนังสือที่หลวงปู่พรหมา แห่งนครจำปาศักดิ์ เป็นพระอภิญญาจากประเทศลาว ดังนั้น ภาษาที่ใช้จารึกลงใบลาน จึงเป็น ตัวธรรมลาวอย่างแน่นอน คงไม่ใช่ภาษาอื่น ๆ มาปะปนอย่างเด็ดขาด และเรื่องนี้ได้ตรวจสอบตัวอักขระแล้วว่าเป็นภาษาลาวจริง และมีเหตุผลอื่นประกอบดังนี้</span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span><span style="color: blue;"> <span style="color: red;"> ๑. เฉพาะองค์หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ</span> ท่านเป็นหลานของผ้าขาวครุฑ ตั้งแต่เป็นเณร</span><span style="color: blue;">ก็ได้ไปเรียนกรรมฐานที่บ้านท่าลี่ อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย และผู้เขียนได้เรียนถามหลวงปู่ว่าผ้าขาวครุฑนี้ เป็นผู้ที่มีลูกศิษย์เป็นทั้งพระและฆราวาส มาเรียนกรรมฐานวิชาอยู่ด้วยทั้งจากฝั่งลาวและไทย หลวงปู่จึงมีความสามารถในการอ่านอักขระตัวอักษรลาว ตัวธรรมลาว สามารถเข้าใจความหมายอันศักสิทธิ์ของอักขระแต่ละตัว </span><br />
<span style="color: blue;"> หลวงปู่จึงสามารถถอดยันต์แต่ละชนิดออกมาได้อย่างพลิกแพลงพิสดาร ข้อนี้ได้รับคำยืนยันจาก<strong><span style="color: red;">คุณชวลิต ลิขิตวัน</span></strong> ลูกศิษย์ก้นกุฏิรุ่นแรกที่เห็นหลวงปู่กำลังทำพิธีจารแผ่นทองคำในกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินจำนวน 3 กล่อง หนักกล่องละ ๕ บาท กล่องนั้นประทับตราครุฑ แผ่นทองคำนั้นจะหลอมเพื่อสร้างรูปหล่อลอยองค์สมเด็จพระศรีสุริโยทัย </span><br />
<span style="color: blue;"> ระหว่างที่ทำพิธีจารแผ่นทองคำนี้ มีหลวงปู่ เณรรับใช้ ๑ รูป และคุณชวลิต เท่านั้น หลวงปู่ท่านจะเปิดใบลานเลือกอักขระออกมาทีละตัว พลิกใบลานเลือกจากยันต์ชนิดต่าง ๆ อย่างสงบเงียบ มีมหาสติตั้งมั่นอย่างมากพร้อมกับจารอักขระไปทีละตัว และเคยบอกคุณชวลิตว่า การจารตะกรุด ม้วนตะกรุด จะมีคาถาอธิษฐานจิตแผ่พลังลมปราณลงในตะกรุดกำกับทุกดอก ขณะม้วนก็จะมีคาถากำกับทำให้แผ่นโลหะร้อนและอ่อนม้วนได้ จึงรู้สึกเหนื่อยมากกว่าการนั่งปรกเสียอีก จึงไม่แปลกใจเลยที่ทำไมตะกรุดของหลวงปู่จึงมีฤทธานุภาพมาก ใครก็ถามหาอยากได้ไว้บูชาครอบครอง </span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span><span style="color: blue;"> <span style="color: red;">๒. สำหรับการนั่งปรกอธิษฐานจิต ผู้เขียนไม่เคยได้ยินว่าหลวงปู่ใช้พระคาถาบทอื่นใดมีแต่ท่านอธิบายให้ฟังเรื่อง การเจริญธาตุน้ำ ดิน ไฟ ลม (อาโปธาตุ ปฐวีธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตุ) และผู้เขียนได้ขอเรียนเรื่องการเจริญธาตุกับท่านไว้ ซึ่งท่านเมตตาสอนให้และอธิบายความศักดิ์สิทธิ์ไว้อย่างมากมาย</span> ประกอบกับผู้เขียนได้เห็นตำราการเจริญธาตุของคูบาอาจารย์หลายท่าน ดังนี้</span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span><span style="color: blue;"> ๒.๑ ตำราการเจริญธาตุของฤาษีคำก้อน บ้านหนองบ่อ อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม ซึ่งเรียนวิชากับหลวงปู่สอนตาทิพย์ ภูค้อ บ้านมะนาว อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร (หลวงปู่คำพันธ์เคยพบหลวงปู่สอนที่บ้านหนองหอยใหญ่ หลวงปู่สอนท่านมรณะภาพ พ.ศ.๒๔๙๓ มีเจดีย์บรรจุอัฎฐิที่ถ้ำภูค้อด้วย)</span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span><span style="color: blue;"> </span><span style="color: #274e13;"> <span style="color: red;">๒.๒ ตำราการเจริญธาตุของปู่ฤาษีโสฬส</span> ก่อนเข้าอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น (ไปจากกาฬสินธ์) ปู่ฤาษีท่านผู้นี้เคยหนีไปอยู่เวียงจันทร์สมัยบ้านเมืองมีปัญหา ผกค.ท่านได้เคยมาอยู่เขตอำเภอนาแก ก่อนจะเดินทางไปอยู่ประเทศลาว โดยท่านได้บวชเป็นฤาษีและได้พบตำราการเจริญธาตุมาจากหอไตรหรือหอพระเวทย์เป็นภาษาลาว ช่วงก่อนปี พ.ศ.๒๕๑๘ ท่านได้ให้คนลาวอ่านภาษาลาว ตัวธรรมลาว แล้วท่านเขียนมาเป็นภาษาไทย ผู้เขียนได้ถ่ายเอกสารเก็บไว้ ๑ ชุด ตำรานั้นเหมือนกับที่หลวงปู่คำพันธ์ท่านได้สอนให้ผู้เขียนและเหมือนกับฤาษีคำก้อนทุกประการ</span><br />
<br />
<span style="color: blue;"> </span><span style="color: red;">๒.๓ ตำราการเจริญธาตุของหลวงปู่สุภา จังหวัดภูเก็ต ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่สีทัต ผู้สร้างพระธาตุท่าอุเทน หลวงปู่สีทัตเป็นลูกศิษย์ของสำเร็จลุน ดังนั้นตำราการเจริญธาตุจึงเป็นเหมือนกันทุกประการเพราะเป็นลูกศิษย์เดียวกัน มีเรื่องเล่าว่าหลวงปู่สีทัตกับผ้าขาวครุฑเป็นเพื่อนกัน จึงค่อนข้างจะมั่นใจได้ว่าหลวงปู่คำพันธ์ ท่านต้องเคยเข้าไปกราบพบสำเร็จลุนอย่างแน่นอน วิชาที่ท่านเรียนจึงเป็นการเจริญธาตุ กระผมได้พบและถ่ายเอกสารตำราของหลวงปู่สุภาไว้เทียบเคียงกันแล้วเป็นการเจริญธาตุไม่ใช่วิชาอื่น</span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span><span style="color: blue;"> <span style="color: #cc0000;">๒.๔ ผู้เขียนได้ศึกษาวิธีการเจริญธาตุ การนั่งปรก การอธิษฐานจิตให้วัตถุมงคลเกิดความศักดิ์สิทธิ์จากหลวงปู่ ที่วัดป่าอรัญคาม ในกุฎิมังคละคีรี เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๓ ได้บันทึกเสียงหลวงปู่ไว้เป็นหลักฐาน</span> เมื่อเปิดทบทวนเสียงหลวงปู่ก็พูดเรื่องการเจริญธาตุ หนุนธาตุ หมุนธาตุ กลับธาตุเช่นกัน บอกวิธีการใช้ การเพ่งให้เกิดพลังในวัตถุมงคล ท่านไม่ได้พูดเรื่องอื่นใช้วิชาอย่างอื่นหรือคาถาบทอื่นใดเลย </span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span><span style="color: blue;"> จึงสรุปกล่าวได้ว่า </span><br />
<div style="text-align: center;">
<span style="color: blue;"><strong><span style="color: red; font-size: large;">หลวงปู่คำพัน์ โฆสปัญโญ </span></strong></span></div>
<div style="text-align: center;">
<span style="color: blue;"><strong><span style="color: red; font-size: large;">ท่านสำเร็จวิชาการเจริญธาตุอย่างแน่นอน</span></strong></span></div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
<span style="color: blue;"> ส่วนเรื่องปาฎิหาริย์ของผู้ที่สำเร็จการเจริญธาตุนั้นมีอย่างมากมายมหาศาล </span><br />
<span style="color: blue;">ท่านได้เมตตาเล่าให้ฟังหลายครั้ง แต่ผู้เขียนไม่ขอนำมาลงไว้ในที่นี้ </span><br />
<span style="color: blue;">เพราะหลวงปู่ท่านบอกว่าเป็นเรื่องที่ท่านรู้เฉพาะตัวท่าน </span><br />
<span style="color: blue;">ไม่อยากให้เปิดเผยจะเป็นการอวดอ้างไป </span><br />
<span style="color: red;"><strong>แต่ผู้เขียนขอบอกว่า</strong></span><br />
<span style="color: red;"><strong> มีมากกว่าที่เป็นเรื่องเล่าลือกันในหมู่ลูกศิษย์มากมายนัก</strong></span><br />
<div align="center">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgDMgwE9GlSLNK8RSOQM2UEu-rPXPBAaRSNG01_GGAu2Om_nysUeH3zTq0f4ou5sN0bJfbPVqFhi9crxPtEaB7XrTS4OKsGubmooIHBl1WcWXjO1OlRFC4I-64hNiBDqapYHx6-pMfnOWw/s1600/Copy+of+P1230575-1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" hea="true" height="287" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgDMgwE9GlSLNK8RSOQM2UEu-rPXPBAaRSNG01_GGAu2Om_nysUeH3zTq0f4ou5sN0bJfbPVqFhi9crxPtEaB7XrTS4OKsGubmooIHBl1WcWXjO1OlRFC4I-64hNiBDqapYHx6-pMfnOWw/s320/Copy+of+P1230575-1.jpg" width="320" /></a></div>
<div align="center">
<br /></div>
<span style="color: blue;"></span><div style="text-align: center;">
<span style="color: blue;">ยันต์มหาปรารถนาลายมือหลวงปู่เขียนให้คุณชวลิต ลิขิตวัน</span><span style="color: blue;"><br /></span><br />
<div style="text-align: center;">
<span style="color: blue;">ร้านสยามมอเตอร์ไซด์ นครพนม</span></div>
<span style="color: blue;"><br /></span><span style="color: blue;"> คุณชวลิตเปิดเผยให้ผู้เขียนทราบว่า ได้ปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่ตั้งแต่ท่านยังไม่ค่อยมีใครรู้จัก เพราะท่านปลัดพิศาล มูลศาสสาทร (สมัยนั้นเป็นปลัดจังหวัดนครพนม) ได้พากันไปกราบหลวงปู่ ยันต์มหาปรารถนานั้นหลวงปู่เขียนให้คุณชวลิตที่วัดป่าจำนวน ๙ แผ่น จารลงในแผ่นเงิน เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๕๓๒ - ๒๕๓๓ ส่วนยันต์มหานิยมจารให้ที่วัดมหาชัยในกุฏิไม้หลังเก่า เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๖ </span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span><span style="color: blue;"><br /></span><span style="color: blue;"><br /></span><span style="color: blue;"><br /></span><span style="color: blue;"><br /></span><span style="color: blue;"><br /></span><span style="color: blue;"></span><br />
<div style="text-align: center;">
<span style="color: blue;">รูปที่ ๕ ยันต์มหาปรารถนา (ซ้ายมือ) หลวงปู่เขียนให้คุณชวลิต ลิขิตวัน</span></div>
<div style="text-align: center;">
<span style="color: blue;">เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๒-๒๕๓๓ ยันต์มหานิยมจารให้ปี พ.ศ.๒๕๑๖</span></div>
<span style="color: blue;"></span><span style="color: blue;"><div style="text-align: center;">
<br /></div>
</span><span style="color: blue;"><div style="text-align: center;">
<br /></div>
</span><br />
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg-acxJh-wAhKo3JVMfChuTQR2XAtTug6FvMvw0LEw-NU5RmnO1xotHnoZ-U7gZt0G_9GeW0JPY_8uzj5Tzq5I3iu56fQ4RZCVl6pcGNxnrIRei9bZY_Eu6j-mEAahx9rP8-ksEDkVyiXU/s1600/P1230575.JPG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="480" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg-acxJh-wAhKo3JVMfChuTQR2XAtTug6FvMvw0LEw-NU5RmnO1xotHnoZ-U7gZt0G_9GeW0JPY_8uzj5Tzq5I3iu56fQ4RZCVl6pcGNxnrIRei9bZY_Eu6j-mEAahx9rP8-ksEDkVyiXU/s640/P1230575.JPG" vca="true" width="640" /></a></div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
</div>
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiZYdTHdr-DDNJsQB4yJMP3DTIbIsJxMM7chHg3_R4Zr0EeHgNZqADBT1jYY85b-l4Yhfmpj3-_NTUwprSgz0acxYx5aZ_OAc9diim7SXwF0ciXJI_1YVJVQ_68SNBQudYRJKX2viH8a2Y/s1600/P1230574.JPG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiZYdTHdr-DDNJsQB4yJMP3DTIbIsJxMM7chHg3_R4Zr0EeHgNZqADBT1jYY85b-l4Yhfmpj3-_NTUwprSgz0acxYx5aZ_OAc9diim7SXwF0ciXJI_1YVJVQ_68SNBQudYRJKX2viH8a2Y/s320/P1230574.JPG" vca="true" width="240" /></a></div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
ฤาษีเอก อมตะhttp://www.blogger.com/profile/05620682567909993073noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3165964413413101119.post-27954267006658604412012-06-28T01:55:00.001-07:002012-08-06T20:06:03.781-07:00ความหมายของอักขระยันต์<strong><span style="color: red; font-size: large;">ความหมายของอักขระ</span></strong><br />
<br />
<br />
ผู้เขียนได้เรียนถามหลวงปู่ว่า ยันต์นี้อ่านว่าอย่างไร ท่านได้พูดเป็นภาษาบาลี แต่ผู้เขียนจำไม่ได้ ผู้เขียนขอความกรุณาให้ท่านแปลความหมายที่มาของอักขระ ท่านได้แปลอยู่ตัวหนึ่งคือ นะ แผลงสระ จาก อะ เป็น อิ จาก นะ เป็น นิ หมายถึง พระนิพพาน อันเป็นความปรารถนาสูงสุดของผู้บำเพ็ญธรรม พระนิพพานนั้น เป็นความว่างจากกิเลสทั้งปวง ซึ่งจะบรรจุความปรารถนาที่ดีงามอื่น ๆ ไว้ด้วยและมักจะสมความปรารถนาที่ต้องการเสมอ<br />
<br />
<strong><span style="color: red; font-size: large;">ยันต์ต้นฉบับใบลาน</span></strong><br />
<br />
เมื่อวันเสาร์ ที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๐ ผู้เขียนและท่าน ผอ.พิเชฎฐ์ หลั่งทรัพย์ ได้ไปกราบเมตตาขอดูยันต์ต้นฉบับใบลานนั้นกับท่านพระครูสุนทรชยาภิวัฒน์ ( สมัย รกฺขิตธมฺโม) และกราบเรียนถามที่มาของยันต์ ท่านได้กรุณาเปิดจากตู้มาให้ดูมีลักษณะเป็นใบลานสีเหลืองซีดผูกด้วยด้ายสีขาว หน้าปกใบลานแผ่นแรก เขียนด้วยลายมือหลวงปู่คำพันธ์ ว่า <br />
<br />
<strong><span style="color: red;"> “หนังสือเล่มนี้เป็นของส่วนตัวยาคูคำพันธ์ น.ธ.เอก </span></strong><br />
<strong><br /><span style="color: red;"></span></strong>
<strong><span style="color: red;"> เมื่อวันที่ ๑๕ กันยายน พ.ศ.๒๔๙๐ ณ บ้านม่วง ต.ปลาปาก นครพนม”</span></strong><br />
<br />
<span style="color: blue;"> ท่านพระครูสุนทรชยาภิวัฒน์ <span style="color: red;">ได้เล่าว่ายันต์ในใบลานนั้นมาจากหลวงปู่พรหมา แห่งนครจำปาศักดิ์ </span><span style="color: red;">ประเทศลาว</span>มีอยู่ ๒ ผูก ผูกที่หนึ่งหลวงพ่อหวัง บ้านทันสมัยได้ไปศึกษาและได้เผาในกองฟอนพร้อมกับศพหลวงพ่อหวังแล้ว (ท่านพระครูสุนทรชยาภิวัฒน์ ตอนนั้นเป็นเณรอยากได้ใบลานผูกของหลวงพ่อหวังจะอธิษฐานขอไว้ แต่ตอนเผาศพหลวงพ่อหวังไฟร้อนแดงเป็นถ่านแต่ศพไม่ไหม้เลย จึงคิดว่าหลวงพ่อหวังคงหวงตำรา จึงโยนใบลานผูกนั้นเข้ากองไฟ และศพหลวงพ่อหวังก็ไหม้ทันที ใช้เวลาประมาณ ๑๐ นาทีเท่านั้น ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายตำรายันต์นั้นอย่างมาก)</span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span>
<span style="color: blue;"> เฉพาะส่วนของหลวงปู่คำพันธ์ ท่านพระครูสุนทรชยาภิวัฒน์ ได้รับการสั่งเสียมอบหมายงานให้รักษาการเจ้าอาวาสวัดมหาชัย พร้อมกับกำกับให้ดูแลทรัพย์สินสิ่งของต่าง ๆ ก่อนหลวงปู่จะละสังขารประมาณ 3 เดือน หนึ่งในนั้นเป็นหนังสือผูกใบลานห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าลายอยู่ในตู้ มีใบลาน ๒๘ ใบ จำนวน ๕๓ หน้า รายละเอียด ดังนี้</span><br />
<br />
หน้าที่ ๑ – ๒ เป็นคำขึ้นต้นอาจจะเป็นคำนำ หรือวิธีการยกครู (เป็นตัวธรรมลาว)<br />
<br />
หน้าที่ ๓ – ๑๒ เป็นกลุ่มยันต์มหาปรารถในใบลาน ๙ แผ่น ๆ ละ ๑๒ ดวง (ด้านหน้า ๖ ดวง ด้านหลัง ๖ ดวง ) รวมกันเป็น ๑๐๘ ดวง <br />
<br />
หน้าที่ ๑๓ – ๑๘ มี ๒ หน้า ๆ ๗ ดวง<br />
<br />
หน้าที่ ๑๙ มี ๕ ดวง<br />
<br />
หน้าที่ ๒๐ มี ๕ ดวง<br />
<br />
หน้าที่ ๒๑ เป็นยันต์สี่เหลี่ยม ๓ ยันต์ และเป็นดวง อีก ๑ ดวง<br />
<br />
หน้าที่ ๒๒ มียันต์เก้ายอด ๒ ยันต์ ยันต์เหลี่ยม ๒ ยันต์<br />
<br />
หน้าที่ ๓๐ – ๕๒ เป็นอักขระตัวธรรมลาว ( อาจเป็นคาถาต่าง ๆ )<br />
<br />
<strong><span style="color: blue;"> เฉพาะส่วนของยันต์มหาปรารถนาโครงสร้างหรือกระดูกยันต์เหมือนกันทั้งหมด แต่มีอักขระที่ซ้ำกันทุกยันต์อยู่ ๓ อักขระ คือคำว่า <span style="color: red;">นะ วะ ภา</span> หลวงปู่ท่านได้ถอดอักขระจากยันต์ทั้ง ๑๐๘ ดวงออกมา ๒ ยันต์ คือยันต์มหาปรารถนา และยันต์มหาโภคทรัพย์ ส่วนยันต์และคาถาอื่น ๆ ก็มีใช้อยู่บ้างแต่ไม่มาก </span></strong><br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiOOFft3p4tM1ypMP2pXrj5DIgAsnstB8KrWvcFU9cVwqA4DR_Slyjg5d_oKSwx_VCBOWv6hJ7VFphLkgcviiBR3ls4tJSGc1CwuXWBkxjHamnWAJGYVmS0QJ33IPMMY0yZSkItk0iHWKc/s1600/P1000150.JPG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="480" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiOOFft3p4tM1ypMP2pXrj5DIgAsnstB8KrWvcFU9cVwqA4DR_Slyjg5d_oKSwx_VCBOWv6hJ7VFphLkgcviiBR3ls4tJSGc1CwuXWBkxjHamnWAJGYVmS0QJ33IPMMY0yZSkItk0iHWKc/s640/P1000150.JPG" vca="true" width="640" /></a></div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
<div style="text-align: center;">
<span style="color: blue;"><strong>รูปที่ ๔ ยันต์ต้นฉบับใบลาน ๑๐๘ ดวง</strong></span></div>
<span style="color: blue;"><br /><strong></strong></span>
<div style="text-align: center;">
<span style="color: blue;"><strong>ท่านพระครูสุนทรชยาภิวัฒน์ กรุณาให้ถ่ายรูปไว้</strong></span></div>
<br />
ในใบลานนั้นไม่ได้มียันต์นะวะภาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มีอย่างอื่นอีกมากมายหลายอย่าง เท่าที่ผู้เขียนพอจะนำเสนอได้มีดังนี้ (ได้นำต้นฉบับจากใบลานและยันต์ที่ปรับภาพให้ชัดเจนมาเปรียบเทียบกันไว้ด้วยแล้ว)<br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiDkaUXy0Ia4thkRJiPddkQ8R9V1WjWIttefXlqebELwL5AsOlYgb7ZAi6KL2yKRbbViFdiySZoMNA3YQxxr2KdZeSqmREW5Juk4BS1viM0ZCS79rAvkEJEORui9hlTKiSWOlhwitv2Za0/s1600/P1000232-1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="331" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiDkaUXy0Ia4thkRJiPddkQ8R9V1WjWIttefXlqebELwL5AsOlYgb7ZAi6KL2yKRbbViFdiySZoMNA3YQxxr2KdZeSqmREW5Juk4BS1viM0ZCS79rAvkEJEORui9hlTKiSWOlhwitv2Za0/s400/P1000232-1.jpg" vca="true" width="400" /></a></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi6rVhUHI5RC3owusGWTFsJk1dmAOKTJxlIoz4FdkxOcW1cVJQYO3spj38UYbsgu-rBqUV84dxYrHLdvPUsuM1WTPF4DbTU5gM2Uh3DzecHhhdHoG0KZHO7o-gg5VORDYt3Kjolu5Tr6X0/s1600/P1000212-1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="261" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi6rVhUHI5RC3owusGWTFsJk1dmAOKTJxlIoz4FdkxOcW1cVJQYO3spj38UYbsgu-rBqUV84dxYrHLdvPUsuM1WTPF4DbTU5gM2Uh3DzecHhhdHoG0KZHO7o-gg5VORDYt3Kjolu5Tr6X0/s400/P1000212-1.jpg" vca="true" width="400" /></a></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjBhRwQ6o4FbBDUp7knvixb8DhbxssnLtMtgTWhE7xcQvDTe5Z9IlLB3pR_akecTUUBpMWK7-DXCq8XOrUsl3Tl4pGHqyfxQ27s3c_acDh1sFFblyDwISrPzO3cQzSqfV5XmCNkt3S4CwE/s1600/P1000084.JPG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="480" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjBhRwQ6o4FbBDUp7knvixb8DhbxssnLtMtgTWhE7xcQvDTe5Z9IlLB3pR_akecTUUBpMWK7-DXCq8XOrUsl3Tl4pGHqyfxQ27s3c_acDh1sFFblyDwISrPzO3cQzSqfV5XmCNkt3S4CwE/s640/P1000084.JPG" vca="true" width="640" /></a></div>
<br />ฤาษีเอก อมตะhttp://www.blogger.com/profile/05620682567909993073noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3165964413413101119.post-29396079284095389102012-06-28T01:22:00.000-07:002012-06-28T01:22:13.329-07:00ที่มาของยันต์มหาปรารถนา<strong><span style="color: red; font-size: large;">ที่มาของยันต์มหาปรารถนา</span></strong><br />
<br />
<br />
<span style="color: blue;"> <strong><span style="color: red; font-size: large;">เมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๔๑</span></strong> ได้มีโอกาสไปกราบหลวงปู่ที่วัดธาตุมหาชัย ขณะนั้น ถ้าจำไม่ผิดทางวัดกำลังรื้อกุฎิไม้ที่หลวงปู่พักเพื่อสร้างใหม่ เนื่องจากปลวกกัดกินจนใกล้จะพัง หลวงปู่จึงได้ย้ายที่พักไปที่อาคารที่พักพระเถระผู้ใหญ่ (อยู่ด้านหลังอาคารพิพิธภัณฑ์ที่กำลังสร้าง)</span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span><br />
<span style="color: blue;"> วันนั้นมีพระบวชใหม่พรรษาน้อยรูปหนึ่งได้มาบอกขอร้องให้พาไปกราบนมัสการหลวงปู่ด้วยเพราะท่าน มีศรัทธาต่อหลวงปู่อย่างมาก จำได้ว่าวันนั้นน่าจะเป็นเวลาบ่าย 2 โมง ได้ไปขออนุญาตกราบท่าน เป็นเวลาเหมาะที่สุดเพราะหลวงปู่ไม่มีญาติโยมมาพบเลย เณรที่คอยรับใช้หลวงปู่จึงบอกว่าหลวงปู่ให้เข้าไปพบที่ในกุฏิ และขณะนั้นมีนายช่างซ่อมเครื่องบินของกองทัพอากาศพาภรรยามากราบหลวงปู่ครั้งแรกเช่นกัน จึงได้เข้าไปกราบท่านเป็นคณะเดียวกัน </span><br />
<br />
<span style="color: blue;"> หลวงพี่บวชใหม่ท่านนั้นได้กราบสนทนากับหลวงปู่เรื่องการปฎิบัติธรรมเจริญกรรมฐาน ท่านได้เมตตาอธิบายให้ฟังอย่างไม่เบื่อหน่ายตลอดจนตอบข้อซักถามหลายแง่มุม ก่อนกลับหลวงพี่ได้ถอดลูกประคำหยกและพระเครื่องขอความเมตตาหลวงปู่ช่วยอธิษฐานจิตให้ด้วย ท่านได้กำลูกประคำและพระเครื่องรวมกับที่ผมได้ถอดจากคอให้ท่านถือไว้ด้วย ท่านเมตตาอธิษฐานจิตอยู่ซักครู่หนึ่งพร้อมกับเป่ารดลงไปแล้วคืนมาให้ และบอกว่า </span><span style="color: red;"><strong>“การให้ปราณคือการให้ชีวิต บางท่านก็ให้ด้วยการรดน้ำมนต์ บางท่านก็ให้ด้วยการเคาะ บางท่านเพียงจ้องมองก็เสร็จแล้ว ”</strong></span><br />
<span style="color: red;"><br /><strong></strong></span><br />
<span style="color: blue;"> ท่านได้สอบถามนายทหารอากาศท่านนั้นว่ามาจากไหน พอทราบว่าเพิ่งมาจากกรุงเทพครั้งแรก ท่านก็ยิ้มอย่างเมตตา ไม่รู้ผมคิดอย่างไรในขณะนั้น ได้กราบขอเมตตาให้ท่านเขียนอะไรให้ลูกหลานด้วย ใจจริงอยากให้ท่านเขียนคำอวยพรให้ แต่ท่านกลับนำสมุดบันทึกของผมไปกางแล้วนำไม้บรรทัดวางทาบลงไปแล้วเขียนยันต์ลงกระดาษ เสร็จแล้วยื่นส่งให้นายทหารท่านนั้น 1 แผ่น แล้วเขียนอีกแผ่นหนึ่งให้กระผม แต่ท่านไม่ได้ลงวันที่ จึงเรียนท่านว่าหลวงปู่ยังไม่ลงวันที่เลย ท่านบอกว่าให้เขียนวันที่เอาเอง เลยได้โอกาสสอบถามที่มาของยันต์นี้ ท่านบอกว่ายันต์นี้มีชื่อว่า <strong><span style="color: red; font-size: large;">“ยันต์สมปรารถนา”</span></strong> ซึ่งลูกศิษย์ส่วนมากมักจะเล่าขานกันว่าเป็น ยันต์มหาปรารถนา ซึ่งก็คงไม่ผิดจากความเป็นจริง</span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span><br />
<div style="text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj_ibb_Y2Jx_xAmomwI59piz33c1j7GUv4JmD0hvgumq3kuk0cGKN5hvgpPbk2eGYbMVghubcACqF4B7NqBhd3RRSEDp1NZlpy79_W5nm-V05eb2lpauayD8XyQVsOXi_IpizgEdjLY0Bg/s1600/Copy+of+P1230488-1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="640" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj_ibb_Y2Jx_xAmomwI59piz33c1j7GUv4JmD0hvgumq3kuk0cGKN5hvgpPbk2eGYbMVghubcACqF4B7NqBhd3RRSEDp1NZlpy79_W5nm-V05eb2lpauayD8XyQVsOXi_IpizgEdjLY0Bg/s640/Copy+of+P1230488-1.jpg" vca="true" width="488" /></a></div>
<div style="text-align: center;">
<span style="color: blue; font-size: large;"><strong>รูปที่ ๓ ยันต์มหาปรารถนา</strong></span></div>
<div style="text-align: center;">
<span style="color: blue; font-size: large;"><strong>ลายมือหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ</strong></span></div>
<div style="text-align: center;">
<strong><span style="color: blue;">หลวงปู่เมตตาเขียนให้ตั้งแต่วันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๔๑</span></strong></div>
<span style="color: blue;"><br /></span><br />
<span style="color: blue;"> <strong><span style="color: red;">ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้เรียนถามท่านว่ามีประโยชน์อย่างไร ท่านตอบว่ามีประโยชน์มากน้อยคนนักจะได้ ให้เก็บไว้ให้ดีต่อไปจะมีประโยชน์มาก ดีกว่าคำอวยพรอีก</span></strong> </span><br />
<br />
<span style="color: blue;"> หลังจากกราบลาท่านแล้ววันต่อมาผู้เขียนได้นำมาเข้าเครื่องถ่ายเอกสารจำนวน <strong><span style="color: red;">๒๐๐ แผ่น </span></strong>นำกลับไปถวายท่าน ท่านบอกว่า ที่นำมานั้นท่านรับไว้ แต่จะไม่แจกให้ญาติโยม เพราะกลัวว่าจะมีคนนำไปทำเป็นการค้า จึงได้กราบเรียนถามที่มาของยันต์ ท่านได้เมตตาเล่าให้ฟังดังต่อไปนี้</span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span><br />
<span style="color: blue;"> </span><span style="color: red;"><strong> “หลวงปู่พรหมา อยู่ที่บ้านม่วง ห่างจากบ้านมหาชัยไปทางบ้านนกเหาะ บ้านสีทนประมาณ ๑๐ กม. ท่านนี้มีความสำคัญมาก (ชาวบ้านจะรู้กันในนาม หลวงปู่พรหมา แห่งนครจำปาศักดิ์ ) เป็นคนมาจากทางฝั่งลาว เป็นพระอภิญญา เพราะท่านเดินบิณฑบาตจากบ้านม่วงมาสกลนคร หรือ จาก บ้านม่วงไปธาตุพนม เรณูนคร แล้วกลับมาทันฉันจังหันเช้าได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ</strong></span><br />
<br />
<span style="color: blue;"> หลังจากหลวงปู่พรหมาละสังขารแล้ว ลูกหลานของท่านได้นำเครื่องอัฐบริขาร เครื่องใช้ต่าง ๆ มาถวายไว้ให้หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ ที่วัดธาตุมหาชัย หลวงปู่คำพันธ์ได้พิจารณารับไว้ <strong><span style="color: red;">ในจำนวนสิ่งของนั้น มีแผ่นยันต์ จารลงใบลาน</span></strong> ตอนที่ผู้เขียนถามหลวงปู่ท่านพยายามให้เณรหาดูแต่ไม่พบ เพราะเก็บไว้ดี อาจหลงที่เก็บ ผู้เขียนเลยไม่ได้เห็นแผ่นยันต์นั้นกับตาตัวเอง แต่ได้สอบถามหลวงพ่อทองตอนยังมีชีวิตอยู่ ท่านเป็นเณรของหลวงปู่คำพันธ์ ท่านบอกว่าเป็นใบลาน ตอนนี้เก็บรักษาไว้กับ ท่านพระครูสุนทรชยาภิวัฒน์ ( สมัย รกฺขิตธมฺโม ) เจ้าอาวาสวัดธาตุมหาชัย (๐๘๑-๙๖๕๖๘๖๗) ”</span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span><br />
<span style="color: blue;"> หลังจากหลวงปู่พิจารณาแผ่นยันต์นั้นแล้ว ท่านได้บอกกับลูกหลานหลวงปู่พรหมาว่า เป็นของดีนะ ให้เก็บรักษาไว้ให้ดี หลวงปู่ท่านได้คืนผูกแผ่นยันต์ให้ลูกหลานหลวงปู่พรหมา หลังจากนั้นประมาณ 2 – 3 วัน ลูกหลานของหลวงปู่พรหมาได้กลับมาหาหลวงปู่คำพันธ์อีก แล้วได้ถวายยันต์นั้นไว้กับหลวงปู่คำพันธ์ (ผู้เขียนไม่ได้สอบถามว่าเป็นวันเวลา พ.ศ.ใด) แต่ได้ถามว่ายันต์นี้มีชื่อว่า อย่างไร ท่านตอบว่า <strong><span style="color: red;">เป็นยันต์มหาปรารถนา หรือทางไทย เราเรียกว่า ยันต์สมปรารถนา</span></strong> เรื่องนี้มีข้อสังเกตว่า ในภายหลังยันต์นี้อาจเรียกชื่อตาม เหรียญรุ่นมหาปรารถนา และรุ่นสมปรารถนา ที่โด่งดังก็ได้ </span><br />
<br />
<span style="color: blue;"> ภายหลังต่อมาผู้เขียนได้ศึกษายันต์ในใบลานของหลวงปู่จากพระครูสุนทรชยาภิวัฒน์ ทำให้ทราบว่า ตำรายันต์และคาถาอาคมที่กำกับในใบลานนั้นเป็นตำราเก่าแก่ทางลุ่มแม่น้ำโขง (ต้องปูพื้นให้ทราบก่อนว่าอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์นั้นครอบคลุมมาถึงดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมด ) </span><span style="color: red;"><strong>ดังนั้น ตัวอักขระในยันต์จึงเป็น อักขระตัวธรรมลาว ซึ่งเป็นของสูง และมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัว หลวงปู่บอกว่า เป็นตัวหนังสือพระอรหันต์ ไม่ต้องปลุกเสก </strong></span><br />
<br />
<span style="color: blue;"> <span style="color: #274e13;">ส่วนยันต์มหาปรารถนา หรือ ยันต์สมปรารถนา</span> ชื่อเดิมในภาษาลาวว่า <span style="color: red; font-size: large;"><strong>ยันต์ไขคำปาก</strong></span> หมายถึงพูดสิ่งใดแล้วได้สิ่งนั้นประหนึ่งคำพูดนั้นเป็นวาจาสิทธิ์ สมดั่งใจปรารถนา ลูกศิษย์ของหลวงปู่ในนครพนมจึงตั้งชื่อว่า ยันต์สมปรารถนา หรือ ยันต์มหาปรารถนา </span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span><br />
ฤาษีเอก อมตะhttp://www.blogger.com/profile/05620682567909993073noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3165964413413101119.post-67144085585793860852009-09-04T01:02:00.000-07:002012-06-28T00:58:22.237-07:00ประวัติหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ (เขียนจากคำบอกเล่าของหลวงปู่)<div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none;">
</div>
<div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi0UmOlL-_1YfOJekASlR0g-77Orbu8-SewOsluCF4cptNvmAk0zJI8mUVz862Clq36OW9nULxJLDhWSXqr0t6KmqBvyySRxKFliQFtPCLoAcImnZR5Qz3PlFmztHH0TBE4W-SjKwFeb_k/s1600-h/P1230497.JPG"><img alt="" border="0" height="400" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377521673809300434" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi0UmOlL-_1YfOJekASlR0g-77Orbu8-SewOsluCF4cptNvmAk0zJI8mUVz862Clq36OW9nULxJLDhWSXqr0t6KmqBvyySRxKFliQFtPCLoAcImnZR5Qz3PlFmztHH0TBE4W-SjKwFeb_k/s400/P1230497.JPG" style="display: block; height: 320px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 240px;" width="300" /></a> </div>
<br />
<strong> <span style="color: blue;">หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ มีชื่อสกุลว่า คำพันธ์ ศรีสุวงศ์ เกิดเมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2458 บ้านหนองหอย หมู่ที่ 4 ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม </span></strong><br />
<br />
<strong><span style="color: blue;"> ต้นตระกูล ของท่านมีเชื้อสายมาจากทางจังหวัดร้อยเอ็ด บ้านไผ่อินทรีย์ บ้านนาสะแบง โยมพ่อแท้ชื่อ นายเคน โยมมารดา ชื่อนางหล่อม หลวงปู่มีน้อง ชื่อคำพวง เสียชีวิตอายุประมาณ 70 ปี ตอนหลวงปู่อายุได้ 5 ปี โยมพ่อเสียชีวิต โยมมารดาได้แต่งงานใหม่กับพ่อเลี้ยง ชื่อนายแสง ซึ่งรักท่านและน้องมาก </span></strong><br />
<br />
<strong><span style="color: blue;"> หลวงปู่เล่าว่า โยมมารดาอายุ 42 ปี ตอนนั้นหลวงปู่อายุ 24 ปี ได้สอนท่านด้วย คำพูดเป็นอมตะมากว่า “เฮ็ดจั่งเพิ่น อย่าให้เฮ็ดจั่งเพิ่น แต่ให้เฮ็ด คือเพิ่น” และ “ไปป่าให้เตรียมไม้ปัดพื้น ไปนำ มันขะลำ” หลวงปู่บวชได้ 6 ปีถึงได้รู้ในตำรา ว่า ไม้ทุกต้นในป่านั้นเป็นยาสมุนไพรรักษาโรคได้ </span></strong><br />
<strong><span style="color: blue;"></span><br /> หลวงปู่คำพันธ์ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุครั้งแรกเมื่ออายุ ระหว่าง 20 - 24 ปี ท่านพระครูสัจจาภิราม (ญาถ่านพิม ) วัดธาตุศรีคุณ อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม เจ้าคณะอำเภอนาแกองค์แรกเป็นอุปัชฌาย์<span style="color: red;"> </span><br /><span style="color: red;"> </span><br /><span style="color: red;"> หลวงปู่คำพันธ์พูดถึงหลวงปู่พิมว่า ก่อนท่านจะ<span style="color: blue;">นิพพาน</span>เคยสั่งให้กลับมา สร้างรูปหล่อของหลวงปู่พิมพ์ไว้ที่วัดธาตุศรีคุณ ท่านเป็นผู้ที่จิตใจสบาย อารมณ์ดี ไม่มีสิ่งใดมากระทบให้เกิดอารมณ์ได้ </span></strong><img alt="" border="0" height="400" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377522266024848882" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgARiBaqaByVsz9mW43hSr7RDatoLAjxEY5APp5jUQVl9dPfHxOs0GSUHNcL7Y12pJvZuL4roeOdCOlbr59egvdEVJBJpO5iP_WDMYsC3Owww1_6OIwyKTIPw1LEYFJYI7_X6DF6Q2xGhs/s400/P1230501.JPG" style="display: block; height: 320px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 240px;" width="300" /><br />
<strong> <span style="color: blue;"> รูปที่ ๒ พระอุปัชฌาย์รูปที่หนึ่ง</span></strong><br />
<strong><span style="color: blue;"> ของหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโย </span><span style="color: red;">หลวงปู่พระครูสัจจาภิราม (พิม) </span></strong><br />
<span style="color: blue;"><br /></span><br />
<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgBatSG2R9fzLn7VXx3q2m09bD1xOi71lqPlO5id6TqOmn0hMPid8TA1_Ch7Yey_Em_su2uA5_4qZKUu7eMCz9vtsnBDTA_NBrG1LB1dE_P0QVgUwjGhgIIFbeBCWfRePT0jDZ8xjJlBo0/s1600/P1230503.JPG" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgBatSG2R9fzLn7VXx3q2m09bD1xOi71lqPlO5id6TqOmn0hMPid8TA1_Ch7Yey_Em_su2uA5_4qZKUu7eMCz9vtsnBDTA_NBrG1LB1dE_P0QVgUwjGhgIIFbeBCWfRePT0jDZ8xjJlBo0/s320/P1230503.JPG" vca="true" width="240" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><strong><span style="color: blue; font-size: small;">พระครูนาครธรรมนิเทศ (หน่าน) </span></strong><br />
<strong><br /><span style="color: blue; font-size: small;"></span></strong></td></tr>
</tbody></table>
<strong> <span style="color: blue;">อุปสมบทครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2488 อายุได้ 30 ปี โดยมีท่านพระครูนาครธรรมนิเทศ (ญาคูหน่าน ) วัดโพธิ์ชัย บ้านต้นแหน อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม เจ้าคณะอำเภอนาแกองค์ที่สองเป็นอุปัชฌาย์ ( ผู้เขียนได้นำรูปขยายอุปัชฌาย์ ทั้งสองของท่านมาถวาย ท่านได้ติดไว้บนประตูทางเข้ากุฏิที่หลวงปู่มรณะภาพต่อจากรูปหลวงปู่เสาร์ )</span> </strong> <strong> <span style="color: blue;"> หลวงปู่ชา สุภัทโท หลวงปู่พุธ ฐานิโย กับหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ เป็นสหายธรรมกัน ท่านไม่เคยพบหลวงปู่มั่นเลย คลาดกันทุกครั้ง แต่เคยฟังธรรมะกับ หลวงปู่เสาร์ ที่บ้านหนองหอย อำเภอนาแก นครพนม จึงให้ ความเคารพนับถือหลวงปู่เสาร์เป็นพระอาจารย์สอนกรรมฐานเพียงแต่ต่างนิกายกัน หลวงปู่เสาร์เป็นพระธรรมยุติ ส่วนหลวงปู่คำพันธ์เป็นพระมหานิกาย </span></strong><br />
<br />
<strong><span style="color: blue;"> ท่านเรียนกรรมฐานจากพระอาจารย์หลายท่าน เช่นหลวงปู่กินรี ( ที่บ้านหนองฮี อ.ปลาปาก นครพนม ),หลวงปู่เสาร์ (ที่บ้านโพนดู่,หนองหอย อ.นาแก นครพนม) ผ้าขาวครุฑ (ที่จังหวัดเลย เป็นลูกศิษย์ของญาถ่านสำเร็จลุน ท่านเป็นคนจากบ้านหนองหอยเป็นญาติหลวงปู่ กระดูกของท่านส่วนหนึ่งหลวงปู่ได้นำมาไว้ที่วัดส้างพระอินทร์) </span></strong><br />
<span style="color: blue;"><br /></span><br />
<strong><span style="color: blue;"> การสอนกรรมฐานทั้งสามท่านมีการสอนเหมือนกัน คือใช้คำภาวนาพุทโธ สอนสติปัฎฐาน ๔ ท่านจึงนำมาปฏิบัติเองจนเห็นพระอินทร์ในสมาธิ วันหนึ่งพระอินทร์มานั่งที่หัวครกกระเดื่องท่านนั่งอีกด้านหนึ่ง ถามว่าพระอินทร์มาทำไม ตอบว่ามานิมนต์สามเณรขึ้นสวรรค์ แรม ๑ ค่ำ (คือพรุ่งนี้) ท่านกลัวตายจึงนั่งภาวนาเดินจงกรมทั้งคืน จนเหนื่อย ได้นอนหลับไป และตกใจตื่นตอนดึก เหลียวมองเห็นสิ่งของเครื่องใช้ทุกสิ่งยังอยู่ ปลุกพระองค์ที่นอนอยู่ข้าง ๆ ก็ไม่ตื่น ท่านนึกว่าตายแล้ว จึงนั่งภาวนาอยู่จนสว่าง และบอกเพื่อนว่า ถ้าท่านตายให้เพื่อนตัดนิ้วชี้ทั้งข้างซ้ายและขวา นำไปตากให้แห้ง นำไปส่งให้พ่อแม่ของท่าน แต่ท่านก็ไม่ตายซักที</span></strong><br />
<span style="color: blue;"><br /></span><br />
<strong><span style="color: blue;"> อีกคราวหนึ่งท่านนั่งกรรมฐานแล้วเห็นแสงสว่างเหมือนกับหลอดไฟตกลงมาจากฟ้า กลายเป็นบันไดขึ้นสวรรค์ ท่านอธิษฐานให้แข็งแรงกว่าเดิมเพื่อจะได้ปีนขึ้นไปสวรรค์ แต่บันไดกลับหายไป ถ้ารู้จักมันแล้วหายไปหมด ตั้งแต่นั้นมาท่านจึงรู้วิธีแก้อารมณ์กรรมฐาน รู้จักวิปัสนูกิเลส และสอนกรรมฐานคนอื่นได้</span></strong></strong><br />
<div style="text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgARiBaqaByVsz9mW43hSr7RDatoLAjxEY5APp5jUQVl9dPfHxOs0GSUHNcL7Y12pJvZuL4roeOdCOlbr59egvdEVJBJpO5iP_WDMYsC3Owww1_6OIwyKTIPw1LEYFJYI7_X6DF6Q2xGhs/s1600-h/P1230501.JPG" style="clear: right; cssfloat: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"><span style="color: blue;"></span></a><br />
<span style="color: blue;"><br /></span></div>
<div style="text-align: center;">
<span style="color: blue;"><br /></span></div>
ฤาษีเอก อมตะhttp://www.blogger.com/profile/05620682567909993073noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3165964413413101119.post-52110696286607893562009-09-04T00:55:00.000-07:002009-09-04T01:01:54.036-07:00วิมุติธรรม <span style="color:#000066;">ปางคราวไปร่วมร้อง หาธรรม
<br />วัดอรัญญะบำ เพ็ญนั้น
<br />บุญญาที่ชักนำ หนุนส่ง
<br />ให้ดื่มด่ำดุจดั้น สู่แคว้น วิมุติหมาย</span>
<br /><span style="color:#000066;">
<br /></span> <span style="color:#ffcc00;"> </span><span style="color:#cc6600;">ยอกรกราบที่เท้า อริยะสงฆ์
<br />หลวงปู่คำพันธ์ลง สั่งสอน
<br />บอกแนวมรรคาตรง โลกุตระจิต
<br />ปล่อยขันธ์ห้าต่อต้อน สู่แดน นฤพาน</span>
<br /></span><span style="color:#cc6600;">
<br /></span> <span style="color:#003300;">ดังจันทร์งามแจ่มหล้า ราตรี
<br />ทอทาบอาบปฐพี ทั่วพื้น
<br />นวลใยยวลฤดี ชื้นฉ่ำ ฤานา
<br />มหาสติคร่าวคลื้น ดูกาย ในกาย</span>
<br /></span><span style="color:#003300;">
<br /></span> <span style="color:#990000;">ดั่งเทวีเจ้าสาว ไหมงาม
<br />สองมือกวักมือตาม แกว่งหมุน
<br />ไหมต้มไหมทองวาม เส้นสาย ต่อนา
<br />ม้วนสติต่างกงลุ้น เพ่งธรรม ในธรรม</span>
<br /></span><span style="color:#990000;">
<br /></span> <span style="color:#000066;"> จดจ่อจ้องสติไว้ เวทนา
<br />สังขารเกิดขึ้นมา ให้รู้
<br />ปัญญาก่อชักพา เวทนา ทุกข์สุข
<br />ล่วงแล้วละผู้รู้ ทิ้งกอง สังขาร</span>
<br /></span><span style="color:#000066;">
<br /></span> <span style="color:#003300;">ธรรมใดที่ละแล้ว ควรรู้
<br />พิจารณาธรรมใดดู ให้เห็น
<br />ก่อเกิดตามพรั่งพรู เติมต่อ
<br />วิปัสสนาละเว้น ทุกขัง อนัตตา</span>
<br /></span><span style="color:#003300;"></span>
<br /> <span style="color:#cc0000;">มรรคแปดเป็นมรรคา ก้าวไป
<br />ญาณทัสนะใน วิมุติถิ่น
<br />โมหะโทสะใจ เปื้อนเกลื่อน
<br />ลดโลภะละสิ้น วัฎฎะสงสาร
<br />
<br /></span> <span style="color:#990000;">วรวิทย์ ตงศิริ
<br /></span> วันที่ ๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๔
<br />
<br />ฤาษีเอก อมตะhttp://www.blogger.com/profile/05620682567909993073noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3165964413413101119.post-36558654609668223892009-09-04T00:53:00.000-07:002012-06-28T01:52:43.919-07:00คำนำจากผู้เขียน<br />
มูลเหตุที่มาของการเขียนเรื่อง <strong><span style="color: red;">“มหายันต์หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ”</span></strong> นี้ สืบเนื่องจากเห็นความเข้าใจของหลายท่านที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงของลูกศิษย์หลวงปู่ และมีเพื่อนพ้องหลายท่านได้มาปรารภขอให้เขียนเป็นข้อมูลเก็บไว้เผื่อในอนาคตจะได้มีความเห็นตรงกัน <br />
<br />
ขอทำความเข้าใจเป็นปฐมบทว่า เรื่องที่เขียนนี้เป็นความเห็นและประสบการณ์โดยตรงของผู้เขียนคนเดียวได้สอบถามลูกศิษย์ท่านอื่น ๆ เทียบเคียงดังรายชื่อที่จะปรากฏตลอดเนื้อหานี้แล้ว บุคคลเหล่านี้ยังมีตัวตนสอบถามได้ <br />
<br />
<strong><span style="color: red;">ดังนั้น หากผู้อ่านท่านใดมีความเห็นแตกต่างออกไปจากนี้ ผู้เขียนไม่ขอคัดค้าน คิดแย้งความเห็นใด ๆ แต่ขอความกรุณาให้ท่านเขียนประสบการณ์ของท่านขึ้นมาเองอีกต่างหาก ไม่ต้องเอาข้อมูลนี้ไปวิจารณ์ใด ๆ</span></strong> แต่อนุญาตให้ลอกข้อมูลนี้เอาไปประกอบการเพื่อเป็นกุศลอื่นได้ หากเป็นการค้าควรขออนุญาตก่อน<br />
<br />
เมื่อวันเสาร์ ที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๐ ผู้เขียนได้เดินทางไปกราบขอข้อมูลจากท่านพระครูสุนทรชยาภิวัฒน์ ( สมัย รกฺขิตธมฺโม ) เจ้าอาวาสวัดมหาชัย หลังจากได้เห็นตำรายันต์หนังสือผูกใบลานนั้นแล้ว เมื่อกลับมาบ้านพักค่อนคืนก่อนสว่างฝันว่า มีเด็กผู้ชายมาขออยู่ด้วยประมาณ ๒๐ – ๓๐ คน แต่นิมิตว่าหลวงปู่ได้พาเด็กผู้ชายมาสมทบขออยู่ด้วยจำนวนมาก ท่านว่าเอาเด็กมาให้รวมกันแล้วได้ ๑๐๘ คน ผู้เขียนก็ตกใจตื่นขึ้นมาตอนเช้า นับว่าความฝันนี้เป็นนิมิตหมายที่ดีมาก<br />
<br />
<strong> หนังสือนี้แบ่งเนื้อหาออก เป็นหลายส่วนประกอบด้วย </strong><br />
<span style="color: blue;"> ๑.ประวัติและปฏิปทาหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ </span><br />
<span style="color: blue;"> ๒.ที่มาของยันต์มหาปรารถนาและวัตถุมงคลที่มียันต์กำกับ </span><br />
<span style="color: blue;"> ๓.ธรรมะที่หลวงปู่ได้อธิบายความไว้ เรื่องปฏิจสมุปบาท ธรรมะวันเกิดและนิพพานอยู่ที่ไหน </span><br />
<span style="color: blue;"> ๔.การเจริญธาตุอธิษฐานจิตนั่งปรกและการแผ่เมตตาด้วยเทียนมงคล </span><br />
<span style="color: blue;"> ๕.เทวนาคราช ยันต์มหาฤาษีและนาคราช</span><br />
<br />
<span style="color: blue;">ขอกราบขอบพระคุณท่านพระครูสุนทรชยาภิวัฒน์ ( สมัย รกฺขิตธมฺโม ) วัดธาตุมหาชัย ท่านพระครูวินัยธร (ถาวร ฐิตธมโม) วัดพระยอดโฆสิตวราราม คุณชวลิต ลิขิตวัน ร้านสยามมอเตอร์ไซด์ นครพนม ที่กรุณาให้ข้อมูลและหลักฐานในการค้นคว้าครั้งนี้ และ คุณนอมมณี วงษ์รัตนา ลูกศิษย์หลวงปู่จากกรุงเทพมหานคร กำนันวรเดช จริยะวรกุล คุณนัธทวัฒน์ ถิรสัตยาพิทักษ์ จังหวัดภูเก็ต ที่สนับสนุนการจัดพิมพ์ร่วมบุญกุศลมาโดยตลอดอย่างสม่ำเสมอ และท่านนายกเทศมนตรีจังหวัดนครพนม คุณพิศิษฐ์ ปิติพัฒน์ พร้อมคุณนายราศี ปิติพัฒน์ ลูกศิษย์ที่ให้ความเคารพหลวงปู่อย่างมากและนำคำสอนของหลวงปู่ไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาจังหวัดนครพนมให้เจริญรุ่งเรืองรุดหน้าทุกด้านอย่างไม่หยุดยั้ง ที่ให้การสนับสนุนการจัดพิมพ์ครั้งนี้</span><br />
<br />
<span style="color: blue;"> อานิสงส์ผลบุญที่เกิดขึ้นจากการเขียนเรื่อง <strong><span style="font-size: large;">“มหายันต์หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ”</span></strong> นี้ ข้าพเจ้าขอน้อมกราบอาราธนาพระบารมีพระพุทธเจ้าองค์ปฐม พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอรหันต์ทุกพระองค์ ตลอดจนพระบารมีของหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ โปรดดลบันดาลให้พุทธบริษัททุกท่านทั้งแปดทิศที่ได้อ่านหนังสือนี้ โดยเฉพาะ <strong><span style="color: red;">คุณพ่อเค่งเซ็ง - คุณแม่ราศี ตงศิริ คุณป้ามณีวรรณ ตงศิริ ญาติพี่น้องทุกท่าน และเพื่อนสหชาติทุกท่านทุกภพชาติของข้าพเจ้า</span></strong> จงสำเร็จผลตามความปรารถนาในทุกประการ ขอให้มีแต่ความสุขกาย สุขใจ ปราศจากทุกข์กาย ทุกข์ใจ มารภัยร้ายใดอย่ามากล้ำกราย หายจากโรคภัยไข้เจ็บ สุขภาพแข็งแรง เจริญในลาภยศ สรรเสริญสุขทุกประการ และขอให้ถึงพระนิพพานในชาตินี้ด้วยทุกท่านเถิด</span><br />
<br />
<div style="text-align: center;">
<strong><span style="color: blue; font-size: large;">วรวิทย์ ตงศิริ</span></strong></div>
<div style="text-align: center;">
<strong><span style="color: #660000;">(ฤาษีเอก อมตะ)</span></strong></div>
<div style="text-align: center;">
<strong>วันพุธ ที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๐</strong></div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjWdk7lgy_aJMWJdhC-0iQSh3axtjD6Lsq2BFAdwsyLR7-LGYvMlo54hmiaHAc3hidlNHCxmEdt3L-Xt8FOj5iSrHiDhA9tLcyRe45wg4muYTsCuWI63eAhCdHPDnrTLt-n-i5T9UKVJBA/s1600/IMG_1341.JPG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="213" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjWdk7lgy_aJMWJdhC-0iQSh3axtjD6Lsq2BFAdwsyLR7-LGYvMlo54hmiaHAc3hidlNHCxmEdt3L-Xt8FOj5iSrHiDhA9tLcyRe45wg4muYTsCuWI63eAhCdHPDnrTLt-n-i5T9UKVJBA/s320/IMG_1341.JPG" vca="true" width="320" /></a></div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
ฤาษีเอก อมตะhttp://www.blogger.com/profile/05620682567909993073noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3165964413413101119.post-6323710640194591692009-09-04T00:50:00.000-07:002012-06-28T00:54:09.657-07:00คำยกย่องหนังสือมหายันต์หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ คุณวรวิทย์เป็นคนที่ผมรู้จักมักคุ้นในฐานะที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษาที่โรงเรียนธาตุนารายณ์วิทยา จังหวัดสกลนคร ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันทำให้รู้จักคุณวรวิทย์ มากขึ้นและการที่ได้พบปะกันสม่ำเสมอทำให้ผมได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของคุณวรวิทย์มากขึ้นอย่างแจ้งชัด ในเรื่องของความศรัทธาในพระพุทธศาสนา การทำบุญเฉพาะตัว และการทำบุญของผู้คนในสังคม คุณวรวิทย์ไม่เคยปฏิเสธ ผมไม่รู้ว่าคุณวรวิทย์จะสั่งสมบุญไปเพื่อจะกลับมาเกิดอีกหรือเปล่า (จะต้องถามเจ้าตัวดู) หรือเพื่อจะสั่งสมบุญไว้เพื่อจะต้องไม่กลับมาก่อภพก่อชาติอีก นี่แหละความเป็นตัวตนของคุณวรวิทย์<br />
<br />
อีกสิ่งหนึ่งหรืออีกหลายสิ่งที่คุณวรวิทย์ทำ เช่น การทำบุญกับงานบุญกฐิน ผ้าป่า สร้างวัด พระพุทธรูป เครื่องรางของขลัง และรวมถึงเรื่องบุญไม่เคยขาดว่างเว้นจากการทำบุญ ในส่วนหนังสือที่เกี่ยวข้องกับพระอาจารย์ที่เคารพ คุณวรวิทย์ได้พยายามแจกจ่ายโดยไม่คิดมูลค่าเป็นเงินทอง ขอให้ได้ทำก็เป็นความสุขใจที่ได้ตอบแทนพระคุณครูบาอาจารย์ที่ตนเองเคารพนับถือ<br />
<br />
หนังสือมหายันต์หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ เป็นหนังสือที่กล่าวถึงยันต์ของหลวงปู่ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และทำไมยันต์มหาปรารถนาจึงมีความสำคัญ คุณวรวิทย์ได้พยายามศึกษาและค้นคว้านำเสนอในหนังสือเล่มนี้ เพื่อให้ยันต์มหาปรารถนาได้แจกจ่ายไปในหมู่เหล่าชาวพุทธที่นับถือในพระพุทธศาสนาและในองค์หลวงปู่คำพันธ์<br />
ยันต์จึงมีที่มาในครั้งโบราณ ยันต์เป็นเครื่องกำกับในเรื่องคุณธรรม ความเชื่อและศรัทธา เนื่องจากยันต์มีหลายประเภทใช้ในเรื่องความอยู่ยงคงกระพัน เมตตามหานิยม ป้องกันสิ่งชั่วร้าย และความมีโชคลาภเป็นต้น<br />
<br />
ที่มาของยันต์เดิมใช้เขียน(จาร)ลงในใบลาน ผืนผ้า เสื้อ และต่อมามีการสักลงในเรือนร่างของมนุษย์ (กลายเป็นจิตกรรมเคลื่อนที่) ยันต์จึงเป็นส่วนหนึ่งในความเชื่อของคนที่นับถือพุทธศาสนา ยันต์มหาปรารถนา<br />
ที่หลวงปู่คำพันธ์ได้เขียน(จาร)ไว้ให้ลูกศิษย์ได้มีไว้ใช้และเคารพกราบไหว้ให้เกิดความเป็นสิริมงคลแห่งชีวิตของลูกศิษย์<br />
<br />
คุณวรวิทย์จึงเป็นบทส่งท้ายที่นำเรื่องดี ๆ ที่เป็นมงคลนำมาฝากไว้ให้ชาวพุทธที่เห็นคุณค่าทางด้านจิตใจ ความเชื่อศรัทธาในองค์หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ และยันต์มหาปรารถนายังเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ <br />
คุณวรวิทย์ได้นำยันต์มหาปรารถนามาอนุรักษ์ซึ่งเป็นของโบราณ อันเป็นประวัติศาสตร์ศาสนาตามคติความเชื่อของชาวพุทธไว้ให้ยั่งยืนสืบไป<br />
<br />
<div style="text-align: center;">
ชัยมงคล จินดาสมุทร์</div>
<div style="text-align: center;">
กลุ่มนักวิชาการภูพานลุ่มแม่น้ำโขง</div>
<div style="text-align: center;">
วันศุกร์ ที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๐</div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjXvfyr9uoHyj9O7Du7vRqMs5n10aBrWsRKEVGSxhWU2feylj0Y2CtjuU30yEUSf2Vg-8YF5fVHBaO5cnVVRi5ZjrzuVVWnyuSQu8wTWn2WQKtqm63HhnZ4KRQMTlaGLLUfRfPO8pkpxyQ/s1600/IMG_3127.JPG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="400" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjXvfyr9uoHyj9O7Du7vRqMs5n10aBrWsRKEVGSxhWU2feylj0Y2CtjuU30yEUSf2Vg-8YF5fVHBaO5cnVVRi5ZjrzuVVWnyuSQu8wTWn2WQKtqm63HhnZ4KRQMTlaGLLUfRfPO8pkpxyQ/s400/IMG_3127.JPG" vca="true" width="266" /></a></div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>ฤาษีเอก อมตะhttp://www.blogger.com/profile/05620682567909993073noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3165964413413101119.post-48996486236438280912009-09-04T00:49:00.000-07:002009-09-04T00:50:53.769-07:00คำนิยมจากประธานเครือข่ายสร้างสรรค์เมืองสกลในยุคปัจจุบันคนรุ่นใหม่ เห็นคงจะไม่มีใครรู้จักว่ายันต์ เป็นอย่างไร เพราะไม่มีการศึกษาในหลักสูตรใดๆเลย เรื่องของยันต์จึงเป็นความลึกลับ อยู่ในเฉพาะกลุ่มคนที่มีความเชื่อเรื่องลึกลับ เล่นของ หรือใช้ในทำนองเพื่อปกป้องอำนาจลึกลับที่จะทำอันตรายต่อคน การที่คนรุ่นใหม่จะลงมาศึกษายันต์ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยาก เนื่องจาก มีความรู้สึกเป็นเรื่องลึกลับ งมงาย ไร้สาระ ตกยุค แต่จะปฏิเสธซะทีเดียวก็ไม่กล้า ดังวลียอดนิยมไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ แสดงถึงอิทธิพลความเชื่อในเรื่องลึกลับก็ยังมีอยู่ในสังคมไทยทั่วไป<br /> ในศาสนาพุทธถือว่าทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นล้วนแต่มีเหตุหรือที่มาทั้งสิ้น ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาลอยๆ หรือเป็นปาฏิหาริย์ เพียงแต่เรายังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดนั่นเอง ถ้าทราบสาเหตุการเกิดเรื่องลึกลับนั้นจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาทันที ในเรื่องของยันต์ก็เช่นเดียวกัน มีสิ่งที่เป็นองค์ประกอบคือ วัสดุที่ใช้เขียน (ผ้า และหมึก) อักขระหรือรูปภาพที่สื่อถึงความเชื่อมโยงของพลัง และ พลังที่แฝงอยู่ในยันต์นั้น ถ้าเทียบเคียงกับวิทยาศาสตร์ ยันต์ก็คือแหล่งพลังงานมหาศาลที่ถูกเก็บไว้ พร้อมที่จะใช้งานถ้านำไป “เปิด” ใช้อย่างถูกวิธี ยันต์จึงเป็นภูมิปัญญาขั้นสูงของคนโบราณที่มีการค้นพบและถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น โดยไม่มีการตีพิมพ์เผยแพร่เหมือนวารสารในยุคปัจจุบัน เนื่องจากการเปิดใช้พลังงานในยันต์ ต้องอาศัยองค์ประกอบของจิตของผู้ใช้ร่วมด้วย ถ้ามีเจตนาในทางทุจริตก็อาจนำพลังงานมหาศาลนั้นไปทางทำลาย หรือในทางเพิ่มกิเลส ตัณหา อันจะนำไปสู่สังคมที่ไม่สงบสุข แต่ถ้าใช้ในทางที่ถูกต้องก็จะเกิดประโยชน์ต่อมนุษยชาติ การถ่ายทอดเทคโนโลยีขั้นสูงนี้ จึงจำเป็นต้องคัดเลือกบุคคลพิเศษที่มีวิสัยทัศน์ที่ดีต่อโลกเพื่อรับการถ่ายทอด จึงมีโอกาสสูญหายไปในที่สุด<br /> อาจารย์วรวิทย์ ตงศิริ เป็นบุคคลที่มีความมุ่งมั่น มีจิตเป็นกุศลอย่างมาก มีความสามารถในการค้นคว้าสืบสาวหาข้อมูลมาถ่ายทอดต่อสาธารณชนให้เป็นเรื่องราวได้อย่างน่าอัศจรรย์ โดยเฉพาะเป็นข้อมูลเชิงปฏิบัติ ที่นำมาจากพระอริยสงฆ์ ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบอย่างหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ ประกอบกับการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อเก็บบันทึกหลักฐานเพื่อสะดวกในการอ้างอิง เช่น เทปบันทึกเสียงหลวงปู่คำพันธ์ การใช้กล้องดิจิตอลบันทึกภาพเชื่อมโยงไปสู่การใช้อักษรธรรมซึ่งมีคนศึกษาน้อยลงทุกที นำมาพิมพ์เป็นรูปเล่ม เพื่อเผยแพร่ให้คนรุ่นหลังได้รู้จักและศึกษาต่อไป ผลของการจัดพิมพ์หนังสือนี้ จะเป็นพลังผลักดันให้อาจารย์วรวิทย์ ผู้เขียนมีสติปัญญาที่เฉียบคมต่อไป<br /> อนึ่ง หลักการในพุทธศาสนา มุ่งเน้นให้พุทธศาสนิกชนปฏิบัติในทางสายเอกคือ มรรคมีองค์แปด จึงขอให้ท่านผู้อ่านได้เก็บเกี่ยวประโยชน์จากหนังสือเล่มนี้ เพื่อไปใช้ในการเจริญรอยตามพระพุทธองค์ อันนำไปสู่ความดับทุกข์ที่ถูกต้องต่อไป<br /><br /> ขออนุโมทนาบุญร่วมกับผู้เขียนและผู้เกี่ยวข้องทั้งหลาย<br /> น.พ.ศิริโรจน์ กิตติสารพงษ์<br /> ประธานเครือข่ายสร้างสรรค์เมืองสกลฤาษีเอก อมตะhttp://www.blogger.com/profile/05620682567909993073noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3165964413413101119.post-9057167545914444762009-09-04T00:12:00.000-07:002009-09-04T00:17:45.062-07:00คำนิยมจากประธานมูลนิธิวิทยาลัยชาวบ้าน<span style="color:#cc0000;"> <span style="font-size:180%;">ผมขอชื่นชม</span></span><span style="font-size:180%;color:#cc0000;">อาจารย์วรวิทย์ ตงศิริ</span> ที่เสียสละทำหน้าที่จัดพิมพ์หนังสือ มหายันต์หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ เล่มนี้ เพื่อเป็นธรรมะวิทยาทาน<br /><br /> อาจารย์วรวิทย์ ตงศิริ เป็นอาจารย์วิทยาลัยเทคนิคสกลนคร มีคุณสมบัติที่น่ายกย่องอย่างยิ่ง ดังนี้<br /><br /> <span style="font-size:180%;"> - มีความรู้ดี <br /> - มีคุณธรรม<br /> - นำชุมชน<br /> - มีกลวิธีสอน<br /> - เอื้ออาทรต่อศิษย์<br /> - ใช้ชีวิตเรียบง่าย<br /> - มุ่งหมายเสียสละเพื่อสังคม<br /></span><br /> <span style="font-size:180%;color:#cc0000;">อาจารย์วรวิทย์ ตงศิริ</span> เป็นผู้มีผลงานมากมาย ผมไม่สามารถจะบรรยายได้หมด สิ่งหนึ่งที่ผมอยากเขียนไว้เป็นข้อคิดตามแนวชีวิตของอาจารย์วรวิทย์ ตงศิริ ที่ผมรู้จักท่าน ท่านเป็นอาจารย์ที่มีความสุข เพราะท่านมีธรรมกำกับตน ขอตั้งหัวข้อว่า <span style="font-size:180%;color:#990000;">“ความสุขของคน อยู่ที่ตนมีธรรม”</span><br /><br /> <span style="color:#990000;"><span style="color:#000066;">ความ ดีทำไว้เถิด ประเสริฐยิ่ง<br /> สุข แท้จริง เกิดแก่ตน กุศลหลาย<br /> ของ ไม่ดี อย่านิยม อย่างงมงาย<br /> คน สบาย เพราะความดี มากมีบุญ<br /></span> อยู่ อย่างฉลาด ไม่ประมาท ในชีวิต<br /> ที่ รู้คิด ใช้ปัญญา มานำหนุน<br /> ตน ฝึกตน มีน้ำใจ ใฝ่การบุญ<br /> มีธรรม ช่วย ค้ำจุน จึงเจริญ<br /> <br /></span> <span style="color:#cc0000;">วีระ รักความสุข<br /></span>ประธานที่ปรึกษามูลนิธิวิทยาลัยชาวบ้าน<br />ประธานที่ปรึกษาเครือข่ายสร้างสรรค์เมืองสกล ( กลุ่มดี้ดี )<br />วันพฤหัสบดี ที่ ๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๐ฤาษีเอก อมตะhttp://www.blogger.com/profile/05620682567909993073noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3165964413413101119.post-42161195288887818012009-09-04T00:10:00.000-07:002012-08-03T21:20:18.096-07:00คำอนุโมทนาบุญในการพิมพ์เผยแผ่หนังสือธรรมะอุกาสะ ข้าพเจ้าขอน้อมกราบอาราธนาพระบารมีทั้งสามสิบทัศน์ขององค์สมเด็จพระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปฐมองค์พระสัมมาพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอรหันต์ทุกพระองค์ในพระนิพพาน มีหลวงปู่พระปัญจวัคคีย์ทั้งห้า พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร พระอุปคุต พระสิวลี พระอานนท์เถระเจ้า พระกัจจายะนะ หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค หลวงปู่โต พรหมรังสี หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ หลวงปู่สุข วัดมะขามเฒ่า หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่พระราชพรหมญาณเถระ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ และพระอริยสงฆ์ทุกพระองค์ ตลอดจนพระบารมีแห่งท้าวมหาราชจตุโลกบาล ทั้ง ๔ ท้าวรตธัฐตะ ท้าววิรุณหค ท้าววิรูปักเข ท้าวเวสสุวรรณ ท้าวสักกะเทวราช พระอินทราทิราช องค์พระศิวะเทพ พระนารายณ์ พระพิฆเณศ แม่พระเพลิง แม่พระพาย แม่พระโพสพ แม่พระธรณี แม่พระคงคา หลวงปู่มหาฤาษีทั้งหลายทั่วป่าหิมพานต์ หลวงปู่ฤาษีรัตดาบส หลวงปู่ฤาษีโสตัสตะภิญญา หลวงปู่ฤาษีอุ่มคำ หลวงปู่ฤาษีปุญตะกะโร พญานาคทั้งหลายท่านสาธุเพซรราช ชัยยะนาคราช จิตตะนาคราช โสมะนาคราช และบริวาร พญาครุฑพันตา พญาครุฑอนัตตาและบริวารทั้งหลาย เทวาอารักษ์ทั่วสากลพิภพทั้งแสนโกฐิจักรวาล โปรดดลบันดาลให้อานิสงส์ผลบุญที่เกิดจากการพิมพ์หนังสือธรรมะ มหายันต์หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ จงเป็นมหาบุญมหากุศลอันยิ่งใหญ่หาปริขอบเขตจำกัดสิ้นสุดไม่ได้ อธิษฐานให้มหาบุญกุศลนี้ จงบังเกิดมีแก่บิดา มารดา เจ้ากรรมนายเวรทุกดวงวิญญาณ ทุกตัวตน ทุกภพทุกชาติที่ผ่านมาตั้งแต่ชาติที่หนึ่ง จนถึงปัจจุบัน ทั้งตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ จงได้รับมหาบุญมหากุศลนี้ทั่วถึงกัน และอโหสิกรรมให้ข้าพเจ้าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปตราบเข้าสู่พระนิพพาน<br />
<br />
ขออธิษฐานจิตโปรดดลบันดาลให้บุญนี้ กลายเป็น อาหารทิพย์ อาภรณ์ทิพย์ วิมานทิพย์ ตลอดจนมีจิตเป็นทิพย์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และเมื่ออนุโมทนาบุญแล้วให้ทุกท่านทั้งเจ้ากรรมนายเวร ญาติพี่น้องของข้าพเจ้าที่ตกทุกข์ได้ยากจงกลายร่างเป็นเทวดา มีรัศมีกายสว่างแจ่มใส เลื่อนภพภูมิสูงยิ่งขึ้นไป จนกว่าจะเข้าถึงพระนิพพาน<br />
<br />
มหาบุญมหากุศลนี้ ขอจงบันดาลให้ทุกท่านที่ได้ร่วมบุญนี้ แม้เพียงแต่การอนุโมทนา และพิมพ์หนังสือธรรมะเล่มนี้เผยแผ่ต่อ ๆ ไป จงได้รับความสุขกายสุขใจ สมหวังในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ ขอให้โรคร้าย ภัยพาลทั้งหลาย จงมลายหายไปโดยพลัน ขอให้บิดามารดา ลูกหลาน ญาติมิตรทุกคน ตลอดจนธุรกิจการงาน การศึกษาเล่าเรียน จงเจริญรุ่งเรืองด้วยจตุรพิตรพรชัยทุกประการ และถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ<br />
<br />
ฤาษีมณีธรธรณินทร์<br />
อุ มะ อะ มิ ปัญโญโหติฤาษีเอก อมตะhttp://www.blogger.com/profile/05620682567909993073noreply@blogger.com4tag:blogger.com,1999:blog-3165964413413101119.post-91310157057708931632009-09-03T22:03:00.000-07:002012-05-25T01:27:29.957-07:00หนังสือ มหายันต์หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ<div align="center">
<span style="color: #000066; font-family: verdana; font-size: 180%;"><strong></strong></span></div>
<div align="left">
<span style="color: #ff6600; font-family: verdana; font-size: 180%;"><strong></strong></span></div>
<div align="left">
<strong><span style="color: #990000; font-family: Verdana; font-size: 180%;"></span></strong></div>
<div align="left">
<strong><span style="color: #990000; font-family: Verdana; font-size: 180%;"></span></strong></div>
<div align="left">
<strong><span style="color: #990000; font-family: Verdana; font-size: 180%;"></span></strong></div>
<div align="left">
<strong><span style="color: #990000; font-family: Verdana; font-size: 180%;"></span></strong></div>
<div align="left">
<strong><span style="color: #990000; font-family: Verdana; font-size: 180%;"></span></strong></div>
<div align="left">
<strong><span style="color: #990000; font-family: Verdana; font-size: 180%;"></span></strong></div>
<div align="left">
<strong><span style="color: #000066; font-family: Verdana; font-size: 180%;"></span></strong></div>
<div align="center">
<span style="font-family: verdana; font-size: 180%;"><strong><span style="color: #660000;">วรวิทย์ ตงศิริ</span></strong></span><br />
<span style="font-family: verdana;"><strong><span style="color: #660000;">(ฤาษีเอก อมตะ)</span></strong></span></div>
<div align="center">
<span style="color: #ff6666; font-family: Verdana; font-size: 180%;"></span></div>
<div align="center">
<span style="color: #ff6666; font-family: Verdana; font-size: 180%;"><strong></strong></span></div>
<div align="center">
<span style="color: #ff6666; font-family: Verdana; font-size: 180%;"><strong></strong></span></div>
<div align="center">
<strong></strong></div>
<div align="center">
<strong></strong></div>
<div align="center">
<span style="color: #ff6666; font-family: Verdana; font-size: 180%;"><strong></strong></span></div>
<div align="center">
<span style="color: #000066; font-family: courier new; font-size: 130%;"><strong>เรียบเรียงเพื่อบูชาพระคุณ</strong></span><br />
<br />
<span style="color: #000066; font-family: courier new; font-size: x-large;"><strong>หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ</strong></span><br />
<strong><span style="color: #000066; font-family: Courier New; font-size: x-large;">ที่เมตตาสอนกรรมฐานและการเจริญธาตุ</span></strong><br />
<br />
<strong><span style="color: #000066; font-family: Courier New; font-size: large;">ขอมอบบุญกุศลนี้ให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่รักยิ่งกว่าสิ่งใด</span></strong><br />
<br />
<strong><span style="color: red; font-family: Courier New; font-size: x-large;">คุณแม่ราศรี ตงศิริ (พิละมาตร)</span></strong><br />
<strong><span style="color: red; font-family: Courier New; font-size: large;">ปัจจุบันปี ๒๕๕๕ อายุ ๘๘ ปี</span></strong><br />
<br />
<strong><span style="color: blue; font-family: Courier New;">ติดตามอ่านประวัติได้ในบล็อค </span></strong><br />
<strong><span style="color: blue; font-family: Courier New;">คุณแม่ราศรี คนสี่แผ่นดิน</span></strong></div>
<div align="center">
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg2FcTxDLSLCg8SumiCfL-en2IaYWM9k_XbahT9uv6WEC8wz1yuk5L5gGGH2R1-GMJX8LrV7IhcFtxiL75-Ug0I74cFS_HwF5gDi2pjkfRvMlo3hFSbPoIYWWiEAfxVmgAd2t_f0CtlIYA/s1600/IMG_1348%5B1%5D.JPG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="400" kba="true" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg2FcTxDLSLCg8SumiCfL-en2IaYWM9k_XbahT9uv6WEC8wz1yuk5L5gGGH2R1-GMJX8LrV7IhcFtxiL75-Ug0I74cFS_HwF5gDi2pjkfRvMlo3hFSbPoIYWWiEAfxVmgAd2t_f0CtlIYA/s400/IMG_1348%5B1%5D.JPG" width="300" /></a></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<br /></div>
<span style="color: red; font-family: courier new; font-size: 130%;"><strong>สงวนลิขสิทธิ์ในการพิมพ์จำหน่าย...</strong></span></div>
<div align="center">
<span style="color: #000066; font-family: courier new; font-size: 130%;"><strong>หากจัดพิมพ์เพื่อการสร้างกุศลผลบุญสร้างสาธารณะประโยชน์เพื่อความเจริญของประเทศชาติ พระพุทธศาสนา</strong></span><br />
<span style="color: #000066; font-family: courier new; font-size: 130%;"><strong>ไม่ต้องขออนุญาต แจ้งให้ทราบแล้วจัดพิมพ์ได้เลย</strong></span></div>ฤาษีเอก อมตะhttp://www.blogger.com/profile/05620682567909993073noreply@blogger.com0