วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555

หลวงปู่คำพันธ์เจริญธาตุนั่งปรกอธิษฐานจิต

หลวงปู่ใช้วิชาการเจริญธาตุในการนั่งปรกอธิษฐานจิตและจารอักขระด้วยตัวธรรมลาว



             เนื่องจากหนังสือผูกใบลานนี้เป็นหนังสือที่หลวงปู่พรหมา แห่งนครจำปาศักดิ์ เป็นพระอภิญญาจากประเทศลาว ดังนั้น ภาษาที่ใช้จารึกลงใบลาน จึงเป็น ตัวธรรมลาวอย่างแน่นอน คงไม่ใช่ภาษาอื่น ๆ มาปะปนอย่างเด็ดขาด และเรื่องนี้ได้ตรวจสอบตัวอักขระแล้วว่าเป็นภาษาลาวจริง และมีเหตุผลอื่นประกอบดังนี้

               ๑. เฉพาะองค์หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ ท่านเป็นหลานของผ้าขาวครุฑ ตั้งแต่เป็นเณรก็ได้ไปเรียนกรรมฐานที่บ้านท่าลี่ อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย และผู้เขียนได้เรียนถามหลวงปู่ว่าผ้าขาวครุฑนี้ เป็นผู้ที่มีลูกศิษย์เป็นทั้งพระและฆราวาส มาเรียนกรรมฐานวิชาอยู่ด้วยทั้งจากฝั่งลาวและไทย หลวงปู่จึงมีความสามารถในการอ่านอักขระตัวอักษรลาว ตัวธรรมลาว สามารถเข้าใจความหมายอันศักสิทธิ์ของอักขระแต่ละตัว       
              หลวงปู่จึงสามารถถอดยันต์แต่ละชนิดออกมาได้อย่างพลิกแพลงพิสดาร ข้อนี้ได้รับคำยืนยันจากคุณชวลิต ลิขิตวัน ลูกศิษย์ก้นกุฏิรุ่นแรกที่เห็นหลวงปู่กำลังทำพิธีจารแผ่นทองคำในกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินจำนวน 3 กล่อง หนักกล่องละ ๕ บาท กล่องนั้นประทับตราครุฑ แผ่นทองคำนั้นจะหลอมเพื่อสร้างรูปหล่อลอยองค์สมเด็จพระศรีสุริโยทัย
              ระหว่างที่ทำพิธีจารแผ่นทองคำนี้ มีหลวงปู่ เณรรับใช้ ๑ รูป และคุณชวลิต เท่านั้น หลวงปู่ท่านจะเปิดใบลานเลือกอักขระออกมาทีละตัว พลิกใบลานเลือกจากยันต์ชนิดต่าง ๆ อย่างสงบเงียบ มีมหาสติตั้งมั่นอย่างมากพร้อมกับจารอักขระไปทีละตัว และเคยบอกคุณชวลิตว่า การจารตะกรุด ม้วนตะกรุด จะมีคาถาอธิษฐานจิตแผ่พลังลมปราณลงในตะกรุดกำกับทุกดอก ขณะม้วนก็จะมีคาถากำกับทำให้แผ่นโลหะร้อนและอ่อนม้วนได้ จึงรู้สึกเหนื่อยมากกว่าการนั่งปรกเสียอีก จึงไม่แปลกใจเลยที่ทำไมตะกรุดของหลวงปู่จึงมีฤทธานุภาพมาก ใครก็ถามหาอยากได้ไว้บูชาครอบครอง

             ๒. สำหรับการนั่งปรกอธิษฐานจิต ผู้เขียนไม่เคยได้ยินว่าหลวงปู่ใช้พระคาถาบทอื่นใดมีแต่ท่านอธิบายให้ฟังเรื่อง การเจริญธาตุน้ำ ดิน ไฟ ลม (อาโปธาตุ ปฐวีธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตุ) และผู้เขียนได้ขอเรียนเรื่องการเจริญธาตุกับท่านไว้ ซึ่งท่านเมตตาสอนให้และอธิบายความศักดิ์สิทธิ์ไว้อย่างมากมาย ประกอบกับผู้เขียนได้เห็นตำราการเจริญธาตุของคูบาอาจารย์หลายท่าน ดังนี้

                   ๒.๑ ตำราการเจริญธาตุของฤาษีคำก้อน บ้านหนองบ่อ อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม ซึ่งเรียนวิชากับหลวงปู่สอนตาทิพย์ ภูค้อ บ้านมะนาว อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร (หลวงปู่คำพันธ์เคยพบหลวงปู่สอนที่บ้านหนองหอยใหญ่ หลวงปู่สอนท่านมรณะภาพ พ.ศ.๒๔๙๓ มีเจดีย์บรรจุอัฎฐิที่ถ้ำภูค้อด้วย)

                  ๒.๒ ตำราการเจริญธาตุของปู่ฤาษีโสฬส ก่อนเข้าอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น (ไปจากกาฬสินธ์) ปู่ฤาษีท่านผู้นี้เคยหนีไปอยู่เวียงจันทร์สมัยบ้านเมืองมีปัญหา ผกค.ท่านได้เคยมาอยู่เขตอำเภอนาแก ก่อนจะเดินทางไปอยู่ประเทศลาว โดยท่านได้บวชเป็นฤาษีและได้พบตำราการเจริญธาตุมาจากหอไตรหรือหอพระเวทย์เป็นภาษาลาว ช่วงก่อนปี พ.ศ.๒๕๑๘ ท่านได้ให้คนลาวอ่านภาษาลาว ตัวธรรมลาว แล้วท่านเขียนมาเป็นภาษาไทย ผู้เขียนได้ถ่ายเอกสารเก็บไว้ ๑ ชุด ตำรานั้นเหมือนกับที่หลวงปู่คำพันธ์ท่านได้สอนให้ผู้เขียนและเหมือนกับฤาษีคำก้อนทุกประการ

                ๒.๓ ตำราการเจริญธาตุของหลวงปู่สุภา จังหวัดภูเก็ต ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่สีทัต ผู้สร้างพระธาตุท่าอุเทน หลวงปู่สีทัตเป็นลูกศิษย์ของสำเร็จลุน ดังนั้นตำราการเจริญธาตุจึงเป็นเหมือนกันทุกประการเพราะเป็นลูกศิษย์เดียวกัน มีเรื่องเล่าว่าหลวงปู่สีทัตกับผ้าขาวครุฑเป็นเพื่อนกัน จึงค่อนข้างจะมั่นใจได้ว่าหลวงปู่คำพันธ์ ท่านต้องเคยเข้าไปกราบพบสำเร็จลุนอย่างแน่นอน วิชาที่ท่านเรียนจึงเป็นการเจริญธาตุ กระผมได้พบและถ่ายเอกสารตำราของหลวงปู่สุภาไว้เทียบเคียงกันแล้วเป็นการเจริญธาตุไม่ใช่วิชาอื่น

              ๒.๔ ผู้เขียนได้ศึกษาวิธีการเจริญธาตุ การนั่งปรก การอธิษฐานจิตให้วัตถุมงคลเกิดความศักดิ์สิทธิ์จากหลวงปู่ ที่วัดป่าอรัญคาม ในกุฎิมังคละคีรี เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๓ ได้บันทึกเสียงหลวงปู่ไว้เป็นหลักฐาน เมื่อเปิดทบทวนเสียงหลวงปู่ก็พูดเรื่องการเจริญธาตุ หนุนธาตุ หมุนธาตุ กลับธาตุเช่นกัน บอกวิธีการใช้ การเพ่งให้เกิดพลังในวัตถุมงคล ท่านไม่ได้พูดเรื่องอื่นใช้วิชาอย่างอื่นหรือคาถาบทอื่นใดเลย

               จึงสรุปกล่าวได้ว่า
หลวงปู่คำพัน์ โฆสปัญโญ
ท่านสำเร็จวิชาการเจริญธาตุอย่างแน่นอน

 ส่วนเรื่องปาฎิหาริย์ของผู้ที่สำเร็จการเจริญธาตุนั้นมีอย่างมากมายมหาศาล
ท่านได้เมตตาเล่าให้ฟังหลายครั้ง แต่ผู้เขียนไม่ขอนำมาลงไว้ในที่นี้
เพราะหลวงปู่ท่านบอกว่าเป็นเรื่องที่ท่านรู้เฉพาะตัวท่าน
ไม่อยากให้เปิดเผยจะเป็นการอวดอ้างไป
แต่ผู้เขียนขอบอกว่า
 มีมากกว่าที่เป็นเรื่องเล่าลือกันในหมู่ลูกศิษย์มากมายนัก


ยันต์มหาปรารถนาลายมือหลวงปู่เขียนให้คุณชวลิต ลิขิตวัน

ร้านสยามมอเตอร์ไซด์ นครพนม

             คุณชวลิตเปิดเผยให้ผู้เขียนทราบว่า ได้ปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่ตั้งแต่ท่านยังไม่ค่อยมีใครรู้จัก เพราะท่านปลัดพิศาล มูลศาสสาทร (สมัยนั้นเป็นปลัดจังหวัดนครพนม) ได้พากันไปกราบหลวงปู่ ยันต์มหาปรารถนานั้นหลวงปู่เขียนให้คุณชวลิตที่วัดป่าจำนวน ๙ แผ่น จารลงในแผ่นเงิน เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๕๓๒ - ๒๕๓๓ ส่วนยันต์มหานิยมจารให้ที่วัดมหาชัยในกุฏิไม้หลังเก่า เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๖







รูปที่ ๕ ยันต์มหาปรารถนา (ซ้ายมือ) หลวงปู่เขียนให้คุณชวลิต ลิขิตวัน
เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๒-๒๕๓๓ ยันต์มหานิยมจารให้ปี พ.ศ.๒๕๑๖








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น